Easter Island

Easter Island เกาะอีสเตอร์ มรดกโลก รูปปั้นแกะสลักจากหินที่เป็นรูปหน้าของคนที่เรียกกันว่าโมอาย

Easter Island สามารถเข้าประเทศได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า อีกทั้งสามารถพักอยู่ที่ชิลีได้นานถึง 90 วัน

Easter Island เป็นเกาะที่ตั้งอย่างโดดเดี่ยว ห่างจากแหล่งที่มีชุมชน ของตาฮิติและชิลีประมาณ 2000 ไมล์ แต่เดิมเป็นเกาะที่มีชื่อว่า Te Pito O Te Henua ตามภาษาท้องถิ่น หรือที่เรียกกันอีกอย่างก็คือ สะดือของโลกนั้นเอง แต่ก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นชื่อเกาะว่า Moai Easter Island ที่ตั้งอยู่ทาง ทวีปอเมริกาใต้

แม้ว่าหากดูผิวเผิน เกาะนี้ก็ไม่ได้มีความน่าสนใจอะไร อีกทั้งยังอยู่ไกลอีกด้วย แต่มันกลับมีสิ่งที่ทำให้ เกาะอีสเตอร์ มรดกโลก ด้วยรูปปั้นแกะสลัก จากหินที่เป็นรูปหน้าของคน ที่เรียกกันว่า “โมอาย” นั่นเองค่ะ โมอายสันนิษฐานว่า น่าจะแกะสลักขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่บรรพบุรุษที่สำคัญ

และสร้างขึ้นจากราว ๆ ค.ศ. 1000 จนถึงช่วงครึ่งหลัง ของศตวรรษที่สิบเจ็ด กว่าสองสามร้อยปีแล้ว ที่ชาวเกาะที่ห่างไกลแห่งนี้ ได้ขุดเหมือง แกะสลัก และสร้างโมอายนี้ขึ้นประมาณ 887 โมอาย จึงทำให้มีขนาดและความซับซ้อน ของโมอายเพิ่มขึ้น ด้วยความพิเศษและมหัศจรรย์นี้ ทำให้กลายเป็นมรดกโลก อยากรู้แล้วใช่ไหมคะ? ว่าพิเศษอย่างไร ถ้าอย่างนั้น ….เราตามไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ

ทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวEaster Island

สำหรับ Easter Island คือ เกาะแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเป็นภาษาท้องถิ่น ที่มีความหมายว่า “สะดือของโลก” อย่างที่เราได้บอกไปบางส่วน แล้วในช่วงแรก แต่ต่อมา… มีเรือของชาวตะวันตก ได้ขึ้นฝั่งบนเกาะนี้ ในช่วงปี 1722 ซึ่งด้วยความบังเอิญ วันที่ขึ้นฝั่งไปยังเกาะแห่งนี้ ตรงกับวันอีสเตอร์พอดี

Moai Easter Island

จึงพากันเรียกชื่อเกาะ ตามวันที่ขึ้นฝั่งนั้นเอง เกาะแห่งนี้ ไม่ค่อยมีความอุดมสมบูรณ์เท่าไหร่นัก เรียกได้ว่า เป็นพื้นที่โล่งและแห้งแล้ง เป็นอย่างมาก แต่ที่เกาะแห่งนี้ ได้รับความสนใจเป็น แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมจากทั่วโลก ก็เพราะว่า รูปแกะสลักจากหินโมอายจำนวนมาก อยู่บนเกาะตามจุดต่าง ๆ ของเกาะนั้นเอง

ซึ่งโมอายนั้น เป็นรูปขนาดใหญ่พอสมควร ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะสรุปกันได้ว่า มันเป็นสิ่งท่ามนุษย์นั้นทำขึ้นมา แต่ด้วยจำนวนที่มากนั้น น่าจะใช้เวลานานพอสมควร กว่าจะทำได้ขนาดนี้ แต่สิ่งที่หลายคน ยังคงหาข้อสรุปไม่ได้ก็คือ การเคลื่อนย้าย ว่าสามารถเคลื่อนย้ายโมอายได้อย่างไร เพราะมีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก ที่ใช้การแบกหามคงจะไม่ไหว

สิ่งที่ควรรู้? ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวยังมรดกโลกแห่งนี้

สำหรับใครที่อยากไป เที่ยวเกาะอีสเตอร์ ทางเราได้รวบรวม สิ่งที่ทุกคนต้องรู้เพิ่มเติมมาฝากกัน เพื่อให้เตรียมตัวและเตรียมพร้อม สำหรับการไปท่องเที่ยวได้

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

สำหรับ Kingdom of easter island ตั้งอยู่ในเขตปกครอง ของประเทศชิลี ห่างจากชายฝั่งประมาณ 3500 กิโลเมตร มีเกาะใกล้เคียงที่สุด ห่างกันอยู่ที่ประมาณ 2000 กิโลเมตร การเดินทางในสมัยก่อน เพื่อไปยังเกาะแห่งนี้ ถือว่ายากลำบากมาก เพราะต้องเดินทางด้วยเรือ ข้ามทะเลไปไกลแสนไกล

Easter Island คือ

กว่าจะถึงเกาะแห่งนี้ เนื่องจากมันตั้งอย่างโดดเดี่ยว อยู่กลางทะเลแปซิฟิกกันเลยทีเดียว แต่ในปัจจุบัน หากเราเดินทางจากประเทศไปไทย ไปยังเกาะแห่งนี้ สามารถเดินทางไปด้วย การนั่งเครื่องบินไปลงที่เมืองหลวงของชิลี โดยอาจจะมีการต่อเครื่องก่อนถึง จากนั้นบินจากเมืองหลวงของชิลี ไปยังเกาะใช้เวลาอีกประมาณ 5 ชั่วโมงด้วยกัน ด้วยระยะทางและการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น ทำให้สถานที่แห่งนี้ มีคนนิยมไปท่องเที่ยวมากขึ้นในทุก ๆ ปี

  • การเข้าสู่ประเทศชิลี

สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการไปยังเกาะอีสเตอร์ หรือต้องการไปยังชิลีนั้น สามารถเข้าประเทศได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า อีกทั้งสามารถพักอยู่ที่ชิลี ได้นานถึง 90 วันเลยทีเดียว บินไกลแล้วต้องเที่ยวให้คุ้ม เพราะประเทศชิลี ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งด้วยกันนั้นเอง

เที่ยวเกาะอีสเตอร์

ใครที่มีแผน จะไปท่องเที่ยวที่ชิลีอยู่แล้ว แนะนำให้วางแผนการท่องเที่ยวให้ดี ศึกษาสถานที่ท่องเที่ยว แต่ละที่เอาไว้ เพื่อช่วยให้การท่องเที่ยวสนุกสนานมากยิ่งขึ้น และคำนวณวันที่ต้องการไปท่องเที่ยว ได้ถูกต้องนั้นเอง

  • การท่องเที่ยวบนเกาะอีสเตอร์

สำหรับการท่องเที่ยวบนเกาะ หลังจากที่เดินทางไปถึงแล้วนั้น จะมีการจัดโปรแกรมทัวร์บนเกาะเอาไว้ ซึ่งจะพาทุกคน ไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะใช้เวลาประมาณ 3 วัน แต่หากอยากท่องเที่ยว แบบเจาะลึกเลย ก็อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 4 วันขึ้นไป ซึ่งการท่องเที่ยว จะซื้อเป็นโปรแกรมทัวร์เลย

การท่องเที่ยวบนเกาะอีสเตอร์

หรือจะเช่ารถ เพื่อท่องเที่ยวเอง ก็สามารถทำได้ แต่บางสถานที่นั้น อาจจะต้องเสียค่าเข้าชมด้วย ไม่ใช่ว่าจะเข้าถึงได้เลย ส่วนในเรื่องของค่าเข้าชมนั้น ไม่ได้แพงอย่างที่หลายคนเข้าใจนะคะ สามารถเข้าชมได้ ด้วยงบที่พอประมาณ แต่เมื่อไปถึงเชื่อว่าทุกคน ต้องยอมจ่ายค่าเข้าชมอย่างแน่นอนค่ะ เพราะมันน่าตื่นเต้น และน่าค้นหา จนทุกคนต้องอดใจไม่ไหวแน่นอน

  • สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะ

บนเกาะไม่ได้มีเพียงแค่โมอาย ให้เห็นตามพื้นที่ต่าง ๆ เท่านั้น แต่บนเกาะยังมีพื้นที่ให้ท่องเที่ยว อีกหลากหลายพื้นที่ด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ของเกาะนั้นเอง พื้นที่ของเกาะนั้น ค่อนข้างกว้าง จึงต้องใช้เวลาหลายวัน หากอยากท่องเที่ยว ให้ทั่วเกาะนั้นเอง

และหากได้ไปท่องเที่ยว ทุกคนจะสัมผัสได้เลยว่า มันสวยจริง ๆ แม้ว่าไม่ได้อุดมสมบูรณ์ มากก็ตาม เนื่องจากมีข้อสันนิษฐานว่า ชนพื้นเมืองเอง น่าจะเคยอยู่อาศัยบนเกาะ และใช้ทรัพยากรบนเกาะ จนหมดสิ้น ทำให้เกาะนั้น ไม่ได้อุดมสมบูรณ์ เหมือนเกาะอื่น ๆ นั้นเอง

ด้วยข้อสันนิษฐานมากมาย ที่ซับซ้อน เป็นสถานที่ลึกลับพิศวง และทำให้คนที่ไปเยือนต่างพากันสงสัย และเกิดคำถามมากมาย ใครละจะเป็นผู้ไขปริศนานี้ได้ หรือจะเป็นเรากันนะ! ที่ต้องไปค้นหาคำตอบนี้?

Easter Island

และทั้งหมดนี้คือ เรื่องราวเพิ่มเติมของเกาะอีสเตอร์ ที่เหมาะสำหรับ คนที่อยากไปท่องเที่ยว ยังเกาะแห่งนี้ เอาเป็นว่า… ใครที่อยากลองไปท่องเที่ยวสักครั้งหนึ่ง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ในการท่องเที่ยวกันบ้าง แบบไปไกล ๆ แล้วได้เจออะไรที่สวยงาม แบบน่าพิศวง เราแนะนำให้ลองไปยัง เกาะอีสเตอร์แห่งนี้

เพราะทุกคนคงรู้แล้วว่า เกาะอีสเตอร์อยู่ที่ไหน เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องยอมรับเลยว่า ไกลแสนไกล ที่หากเทียบระยะทางประเทศไทย ไปชิลีว่าไกลแล้ว แต่หากเทียบระยะทาง ต่อไปยังเกาะอีสเตอร์ ก็ยิ่งไกลไปใหญ่ คงไม่มีใคร อยากจะเชื่อว่า มันสามารถไปท่องเที่ยว

รวมถึงพักอาศัยอยู่บนเกาะหลาย ๆ วันได้ แต่มันคงไม่สะดวกสบาย เท่าที่หลายคนคิดเอาไว้ เนื่องจากมันเป็นพื้นที่ห่างไกลนั้นเอง ใครที่ไม่ใช่สายลุย อาจจะต้องวางแผนให้ดี หรือคิดให้หนักหน่อย ก่อนตัดสินใจไปท่องเที่ยว ยังเกาะอีสเตอร์นั้นเอง

พบกับบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่ @UFA-X10

นำเสนอบทความ โดย สายรุ้ง